ฟุตบอลโลก 2026 ว่ากันว่าจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ที่สุด โดยจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีประเทศเจ้าภาพบอลโลก 2026 ร่วมกับมากที่สุดถึง 3 ประเทศ ประเทศหลักคือสหรัฐอเมริกา รวมทั้งแคนาดาและเม็กซิโก และจะเป็นครั้งแรกที่มีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 48 ทีม โดยเพิ่มจากครั้งที่แล้วอีก 12 ทีม แน่นอนว่าเมื่อมีการเพิ่มทีมมากยิ่งขึ้น การแข่งขันในรอบคัดเลือกบอล โลก 2026ก็จะซับซ้อนยิ่งขึ้น JBO Thailand นำเสนอรายละเอียดทั้งหมด โดยมีรูปแบบโดยสรุปดังนี้ จำนวนทีมที่ได้รับโควต้าแต่ละทวีป ทั้งหมดรวมกันแล้วจะได้ 46 ทีม โดยอีก 2 ทีมจะได้จากการแข่งขันเพลย์ออฟระหว่าง 6 ทีม ที่เป็นตัวแทนทีมเข้ารอบบอลโลกของแต่ละทวีปยกเว้นยุโรป … Read more
จำนวนทีมและจำนวนสนาม ฟุตบอลโลก 2026 มีกำหนดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคม 2026 โดยในการแข่งขันครั้งนี้จะมีเจ้าภาพร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศในอเมริกาเหนือ การแข่งขันส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโกและแคนาดาที่เป็นเจ้าภาพบอลโลก 2026 และครอบคลุมทั้งหมด 16 สนามด้วยกัน บอล โลก 2026 มีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกหลายอย่างด้วยกัน เริ่มจากจะเป็นการมีเจ้าภาพมากที่สุด 3 ประเทศเป็นครั้งแรก และจะเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่จะมีทีมที่เข้าร่วมรอบสุดท้ายทั้งหมด 48 ทีม เพิ่มเติมจากเดิมที่มีเพียง 32 ทีม และจะมีการแข่งขันทั้งหมด 104 เกม … Read more
ฟุตบอลโลก 2026 ทัวร์นาเมนต์สุดยิ๋งใหญ่ที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย จากสถิติการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ระหว่างอาร์เจนตินาพบกับฝรั่งเศส มีผู้ชมการถ่ายทอดสดทั่วโลกกว่า 571 ล้านคน นับจากวันนี้อีกไม่ถึง 500 วันแล้วที่การแข่งขันฟุตบอลระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะเริ่มต้น JBO Thailand นำเสนอประวัติโดยย่อของฟุตบอลโลก วัน เวลา และสนามการจัดแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 23 ประวัติโดยย่อของฟุตบอลโลก การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกจัดขึ้นในปีพ.ศ. 2473 โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) โดยทีมแรกที่คว้าแชมป์คือ ทีมชาติอุรุกวัย เหตุผลที่มีการจัดการแข่งขันสืบเนื่องมาจากความสำเร็จของการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิค หลังจากการจัดการแข่งขันครั้งแรก ได้มีการแข่งขันจัดขึ้นทุก ๆ 4 ปีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ยกเว้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรูปแบบการแข่งขันจะเริ่มด้วยการแข่งขันในรอบคัดเลือกจากทวีปต่าง … Read more
พรีวิวฟุตบอลโลก 2026
การแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจะกลับมาลงเล่นอีกครั้ง ในช่วงฤดูร้อนในช่วงกลางปี 2026 โดยจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 23 ถึงแม้ว่าจะยังมีเวลาอีกกว่า 1 ปีกว่า ๆ ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น แต่ความตื่นเต้นกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแฟนฟุตบอลทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจกับฟุตบอลโลก 2026 ครั้งนี้ เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆ หลายอย่างด้วยกัน
อย่างแรกคือการเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2026 ร่วมกันกันของ 3 ประเทศเป็นครั้งแรก โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก โดยมีเม็กซิโกและแคนาดาเป็นเจ้าภาพร่วม นอกจากนั้นทัวร์นาเมนต์นี้จะเป็นทัวร์นาเมนต์แรกที่มีทีมเข้าร่วมฟุตบอลโลก 2026 48 ทีม โดยเพิ่มจากจำนวนทีมทั้งหมด 32 ทีมเมื่อครั้งล่าสุด ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรูปแบบการแข่งขัน โดยในตอนนี้กระบวนการคัดสรรค์ทีมชาติ 48 สุดท้ายได้เริ่มต้นไปแล้วในทุกทวีป
บทความของเราวันนี้เป็นการพรีวิวฟุตบอลโลกล่วงหน้า โดยเราจะครอบคลุมเนื้อหาที่น่าสนใจเช่น ประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก โปรแกรมการแข่งขัน สนามทั้งหมดที่จะมีการจัดการแข่งขัน รายละเอียดของทีมเต็งที่จะได้เข้าร่วม และอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับทัวร์นาเมนต์สำคัญในประวัติศาสตร์
อัตราต่อรองล่าสุดในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2026
*อัตราต่อรองอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นการแข่งขันครั้งที่ 23 ในประวัติศาสตร์ โดยการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการครั้งแรกจัดขึ้นในปี 1930 โดยมีประเทศอุรุกวัยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และนับตั้งแต่นั้นมา การแข่งขันก็จัดขึ้นทุกๆ 4 ปี
ก่อนหน้าที่จะมีทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกจะถือกำเนิดขึ้น มีการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างไม่เป็นทางการคือถ้วยรางวัลเซอร์โทมัส ลิปตัน ซึ่งจัดขึ้นในปี 1909 และ 1911 นอกจากนั้นการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกฤดูร้อนที่มีทีมฟุตบอลสมัครเล่นเข้าร่วมเล่นจากทั่วโลกนั้นได้รับความนิยมอย่างสูงสุด จึงมีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งเป็นทีมรวมนักเตะมืออาชีพอย่างแท้จริง
ภาพรวมของฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลกเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ โดยเป็นการแข่งขันของทีมฟุตบอลทีมชายที่เป็นตัวแทนจากหลายประเทศทั่วโลก ถือเป็นการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจากสถิติมีแฟนบอลเข้าชมรอบชิงชนะเลิศในปี 2022 ประมาณ 1.5 พันล้านคน และเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีแฟนกีฬาตั้งตารอคอยทุก ๆ 4 ปี
ก่อนหน้านั้นการแข่งขันฟุตบอลโลกมีทีมทั้งหมด 32 ทีมที่เข้าร่วมในรอบสุดท้าย ก่อนที่ทางฟีฟ่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในการแข่งขันด้วยทีมเข้ารอบบอลโลก 48 ทีม รวมทั้งยังเป็นครั้งแรกที่จะมีเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันมากที่สุด 3 ประเทศ
ทีมแชมป์และรองแชมป์ฟุตบอลโลกในอดีต
ทีมที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุดคือทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์ไปได้แล้ว 5 ครั้งในปี 1958 1962 1970 1994 2002 รองลงมาคือทีมชาติ ตามมาด้วยเยอรมันนีและอิตาลีที่คว้าแชมป์ได้ 4 ครั้งเท่ากัน และตามมาด้วยอาร์เจนตินาที่ตามหลังมาที่ 3 ครั้ง
ปีการแข่งขัน | แชมป์ฟุตบอลโลก | รองแชมป์ฟุตบอลโลก |
ปี 1930 | ทีมชาติอุรุกวัย | ทีมชาติอาร์เจนตินา |
ปี 1934 | ทีมชาติอิตาลี | ทีมชาติเช็ก |
ปี 1938 | ทีมชาติอิตาลี | ทีมชาติฮังการี |
ปี 1950 | ทีมชาติอุรุกวัย | ทีมชาติบราซิล |
ปี 1954 | ทีมชาติเยอรมันนี | ทีมชาติฮังการี |
ปี 1958 | ทีมชาติบราซิล | ทีมชาติสวีเดน |
ปี 1962 | ทีมชาติบราซิล | ทีมชาติเช็ก |
ปี 1966 | ทีมชาติอังกฤษ | ทีมชาติเยอรมันนี |
ปี 1970 | ทีมชาติบราซิล | ทีมชาติอิตาลี |
ปี 1974 | ทีมชาติเยอรมันนี | ทีมชาติเนเธอแลนด์ |
ปี 1978 | ทีมชาติอาร์เจนตินา | ทีมชาติเนเธอแลนด์ |
ปี 1982 | ทีมชาติอิตาลี | ทีมชาติเยอรมันนี |
ปี 1986 | ทีมชาติอาร์เจนตินา | ทีมชาติเยอรมันนี |
ปี 1990 | ทีมชาติเยอรมันนี | ทีมชาติอาร์เจนตินา |
ปี 1994 | ทีมชาติบราซิล | ทีมชาติอิตาลี |
ปี 1998 | ทีมชาติฝรั่งเศส | ทีมชาติบราซิล |
ปี 2002 | ทีมชาติบราซิล | ทีมชาติเยอรมันนี |
ปี 2006 | ทีมชาติอิตาลี | ทีมชาติฝรั่งเศส |
ปี 2010 | ทีมชาติสเปน | ทีมชาติเนเธอแลนด์ |
ปี 2014 | ทีมชาติเยอรมันนี | ทีมชาติอาร์เจนตินา |
ปี 2018 | ทีมชาติฝรั่งเศส | ทีมชาติโครเอเชีย |
ปี 2022 | ทีมชาติอาร์เจนตินา | ทีมชาติฝรั่งเศส |
แมตช์ฟุตบอลโลกที่น่าจดจำมากที่สุด
ตั้งแต่ฟุตบอลโลกกำเนิดขึ้นแบบทางการ มีการแข่งขันมากกว่า 900 นัด และมีหลายสิบนัดที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลทั่วโลก เราได้คัดสรรค์แมตช์ที่หลายคนยังคงกล่าวถึงมาจนถึงวันนี้
อาร์เจนตินา 3-3 ฝรั่งเศส รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 (อาร์เจนตินาชนะจุดโทษ 4-3)
นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ระหว่างอาร์เจนตินาและฝรั่งเศสเป็นแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เนื่องจากเป็นเกมที่มีครบทุกรสชาติและมีการพลิกผันตลอดเวลาทีมอาร์เจนตินาครองเกมในช่วงแรก และได้ประตูจากลิโอเนล เมสซี่ในการยิงจุดโทษ และอังเฆล ดิ มาเรียยิงเพิ่มอีก 1 ประตู ทำให้เสมอกันที่ 2–0 และแฟนบอลฝรั่งเศสที่กำลังชมเกมก็เหมือนจะหมดหวังไปแล้ว อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายครึ่งหลังคีเลียน เอมบัปเป้ทำประตูได้ 2 ลูกรวดให้โดยลูกหนึ่งเป็นลูกจุดโทษ และอีกลูกเป็นลูกวอลเลย์สุดสวย ทำให้เกมเสมอกัน 2-2 และต้องต่อเวลาพิเศษ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมสซี่ยิงให้ทีมชาติอาร์เจนตินาขึ้นนำอีกครั้ง แต่เอมบับเป้ยิงลูกจุดโทษตีเสมอเป็น 3-3 เกมจึงต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ระหว่างดวลจุดโทษ ทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นฝ่ายเอาชนะได้ โดยต้องขอบคุณผู้รักษาประตูเอมิเลียโน มาร์ติเนซที่กลายเป็นฮีโร่ด้วยการเซฟลูกยิงสำคัญๆ
เยอรมันนี 7-1 บราซิล รอบรองชนะเลิศในปี 2014
เกมระหว่างยักษ์ใหญ๋ของยุโรปพบกับยักษ์ใหญ่จากอเมริกาใต้ การพบกันของทั้งสองทีมเป็นหนึ่งในแมตช์ที่น่าตกตะลึงและน่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก โดยเยอรมันนีถล่มบราซิลไปยับเยิน 7–1 โดยเยอรมนียิงได้ 5 ประตูในเวลาเพียง 18 นาทีในครึ่งแรก โดยมิโรสลาฟ โคลเซ่ทำลายสถิติผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลก และโทนี่ โครสยิงได้ 2 ประตูติดต่อกัน
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นการพ่ายแพ้ที่ขาดลอยที่สุดของบราซิลในฟุตบอลโลก และเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับชาติเจ้าภาพในประวัติศาสตร์
บราซิล 4–1 อิตาลี รอบชิงชนะเลิศในปี 1970
การเผชิญหน้าครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งในฟุตบอลโลกปี 1970 ที่เม็กซิโก ซึ่งเป็นนัดชิงชนะเลิศระหว่างอิตาลีและบราซิล โดยบราซิลนำทีมเปเล่ ที่โหม่งลูกยิงอันทรงพลังและอิตาลียิงตีเสมอได้จากโบนินเซญญา แต่ครึ่งหลังบราซิลกลับมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมและยิงอีกได้อีกสามประตูจากเกอร์สันและจาร์ซินโญ่ก็ยิงเพิ่มอีกประตู ทำให้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำประตูได้ในทุกนัดของฟุตบอลโลก ปิดท้ายด้วยคาร์ลอส อัลแบร์โต ยิงประตูชัย 4–1 จากการส่งของเปเล่
การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการแข่งขันฟุตบอลโลก2026
- ปี 1930 : การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกเริ่มขึ้นโดยมีทีมเข้าร่วม 13 ทีมในอุรุกวัย และชาติจากในยุโรป 4 ชาติ ได้แก่ เบลเยียม ฝรั่งเศส โรมาเนีย และยูโกสลาเวีย
- ปี 1934 : การแข่งขันมีการเพิ่มจำนวนทีมเป็น 16 ทีม
- ปี 1938 : ทีมเข้าร่วมเพียง 15 ทีมเท่านั้น หลังจากออสเตรียถอนตัวออก
- ปี 1950 : การแข่งขันฟุตบอลโลกกลับมาจัดอีกครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสองการแข่งขันก่อนหน้านี้ถูกยกเลิก โดยมี 13 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน
- ปี 1954 : กลับมาใช้รูปแบบการแข่งขันแบบ 16 ทีมอีกครั้งโดยจัดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์
- ปี 1970: มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนตัวผู้เล่นสำรองเพิ่มเป็น 2 คนและมีการถ่ายทอดสดแบบภาพสี
- ปี 1982: การแข่งขันฟุตบอลโลกในสเปนก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยด้วยการเพิ่มจำนวนทีมจาก 16 เป็น 24 ทีมและมีเกมทั้งหมด 52 เกม
- ปี 1994: ฟุตบอลยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมี 147 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อหาทีมเข้ามาแข่งในรอบคัดเลือก
- ปี 1998: การแข่งขันที่จัดขึ้นในฝรั่งเศสเพิ่มเป็น 32 ทีม โดยมี 174 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันรอบคัดเลือก
- ปี 2002: เป็นครั้งแรกที่การแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีเจ้าภาพร่วมคือญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
- ปี 2022 เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาว เพื่อหลีกเลี่ยงอากาศที่ร้อนใน
- ในฟุตบอลโลก 2026 จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยจะมีทีมที่ลงเล่นในรอบสุดท้ายทั้งหมด 48 ทีมและมีเจ้าภาพทั้งหมด 3 ชาติเป็นครั้งแรก
บอล โลก 2026กับความเชื่อมโยงต่อวัฒนธรรม
การแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นโอกาสอันดีในการเชื่อมต่อวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ประเทศที่เป็นเจ้าภาพสามารถนำเสนอวัฒนธรรมและประเพณี รวมทั้งโปรโมทการท่องเที่ยวในประเทศให้ทั่วโลกได้เห็น และเสริมสร้างรายได้ให้คนท้องถิ่นแบบเป็นกอบเป็นกำได้อีกด้วย
การแข่งขันฟุตบอลโลกมอบความบันเทิง ความสนุกสนาน รวมทั้งยังสามารถเปลี่ยนทัศนคติของคนทั่วโลกต่อประเทศนั้นๆ ได้ นอกจากนั้นยังสามารถสร้างเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองได้อีกด้วย
ฟุตบอลโลก 2026
อีกประมาณ 15 เดือนข้างหน้า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 จะเริ่มขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างด้วยกัน ด้านล่างคือการพรีวิวฟุตบอลโลก 2026 แบบละเอียด
ประเทศเจ้าภาพบอลโลก 2026
ฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นการจัดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมีเจ้าภาพทั้งหมด 3 ประเทศคือสหรัฐอเมริกา เม็กซิโกและแคนาดา โดยจะมี 16 สนามที่จัดการแข่งขัน โดย 11 สนามตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ซีแอตเทิล, ซานฟรานซิสโก, ลอสแองเจลิส, ดัลลาส, ฮูสตัน, แคนซัสซิตี้, ฟิลาเดลเฟีย, แอตแลนตา, ไมอามี่, บอสตัน และนิวยอร์ก
ในประเทศเม็กซิโกจะอยู่ที่มอนเตร์เรย์, กัวดาลาฮารา และเม็กซิโกซิตี้ ส่วนที่ประเทศแคนาดาจะจัดขึ้นที่เมืองแวนคูเวอร์และโตรอนโต
วันที่และตารางการแข่งขันบอล โลก 2026
การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายและตารางถ่ายบอลโลก จะเริ่มต้นรอบแบ่งกลุ่มระหว่างวันที่ 11-27 มิถุนายน 2026 โดยมี 3 ประเทศเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2026
รอบ 32 ทีมสุดท้าย : วันที่ 28 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2026
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : วันที่ 4 กรกฎาคม - 7 กรกฎาคม 2026
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : วันที่ 9 กรกฎาคม - 11 กรกฎาคม 2026
รอบ 4 ทีมสุดท้าย : วันที่ 14 กรกฎาคมและวันที่ 15 กรกฏาคม 2026
บอลโลกชิงวันไหน รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2026 จะมีขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม 2026
กระบวนการคัดเลือก 48 ทีมสุดท้าย
การคัดเลือกสำหรับฟุตบอลโลก2026 เริ่มต้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา โดยมีการเปลี่ยนแปลงจากจำนวนทีมจากเดิมที่ 32 ทีม เพิ่มไปเป็น 48 ทีม เนื่องจากทางฟีฟ่าต้องการเปิดโอกาสให้ประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่เคยเข้ารอบสุดท้ายได้มีโอกาสบ้าง
รายละเอียดของการคัดเลือก 48 สุดท้ายจากทุกทวีปทั่วโลก
ทวีปยุโรป ( UEFA )
ได้โควต้ามากที่สุดที่ 16 ทีม โดยจะคัดเลือกจากทีมเข้ารอบ 12 อัตโนมัติ และ 4 ทีมจากการเล่นเพลย์ออฟ จะมีประเทศทั้งหมด 54 ประเทศเข้าร่วม โดย 12 ทีมแรกจะได้จากการแข่งในรอบแบ่งกลุ่มและมีการเล่นทั้งเหย้าและเยือน ผู้ชนะของกลุ่มจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกโดยตรง
สำหรับ 4 อันดับสุดท้ายในฟุตบอลโลกจะถูกตัดสินโดยรอบเพลย์ออฟของ UEFA ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2026
ทวีปอเมริกาใต้ ( CONMEBOL)
ได้โควต้าทั้งหมด 7 ทีม โดยมีทั้งหมด 10 ประเทศที่แย่งชิงตำแหน่งกัน 6 ทีมแรกที่มีคะแนนมากที่จะเข้าสู่รอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ และทีมที่ 7 จะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟอินเตอร์คอนติเนนตัลในเดือนมีนาคม 2026
ทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลางและแคริบเบียน ( CONCACEF )
ได้โควต้าทั้งหมด 6 ทีมโดย 3 ตำแหน่งนั้นเป็นโควต้าของเจ้าภาพทั้ง 3 ประเทศทำให้เหลือ 3 ตำแหน่งที่ยังว่างอยู่และ และอีก 2 ตำแหน่งในรอบเพลย์ออฟอินเตอร์คอนติเนนตัล ในทวีปนี้จะมีประเทศทั้งหมด 32 ประเทศเข้าร่วมลงต่อสู้
ทวีปแอฟริกา (CAF)
ได้โควต้าทั้งหมด 10 ทีม โดยมีทั้งหมด 53 ประเทศ โดยการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 รอบด้วยกันเพื่อหาทีมที่มีคะแนนที่ดีที่สุด 9 ทีม และอีกหนึ่งทีมจากการลงเล่นในรอบเพลย์ออฟ
ทวีปเอเชีย (AFC)
ได้โควต้าทั้งหมด 9 ทีมและเป็นกลุ่มที่มีระบบการคัดเลือกที่ซับซ้อนที่สุดในการไปแข่งขันฟุตบอลโลก โดยมีกระบวนการคัดเลือกแบบหลายชั้นซึ่งสร้างรอบแบ่งกลุ่มแบบ 2 รอบเพื่อค้นหา 8 ชาติที่ผ่านเข้ารอบอัตโนมัติ และอีกทีมจะคัดเลือกจากทีมที่มีคะแนนที่ดีที่สุดในรอบเพลย์ออฟ
ทวีปเอเชียโอเชียเนีย (OFC)
สำหรับทวีปนี้ได้โควต้าทั้งหมด 2 ทีม โดยมีประเทศเข้าร่วมทั้งหมด 11 ประเทศ 4 ชาติที่มีอันดับต่ำสุดจะลงเล่นแบบน็อคเอาท์ (รอบรองชนะเลิศ 2 รอบและรอบชิงชนะเลิศ 1 รอบ)
ทีมเต็งที่มีสิทธิคว้าแชมป์บอล โลก 2026
ทีมชาติสเปน
ทีมชาติสเปนของหลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้เป็นทีมเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์บอล โลก 2026 จากสปอร์ตบุ๊คส์หลายแห่ง ทีมชาติ La Roja คว้าแชมป์ยูโร 2024 ได้อย่างสวยงามโดยไม่แพ้ทีมไหนและเก็บชัยชนะได้ทุกเกม ทีมชาติสเปนเกมนี้เป็นทีมที่ผสมผสานระหว่างนักเตะที่มีประสบการณ์และนักเตะวัยหนุ่ม
ตำแหน่งเดียวที่เด ลา ฟูเอนเต้ต้องมองหา น่าจะเป็นกองหน้าที่มาเป็นตัวแทนของโมราต้า ส่วนในตำแหน่งอื่น ๆ นั้นอัดแน่นไปด้วยตัวเลือกนักเตะที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นลามีน ยามาล นิโก้ วิลเลี่ยม เปา คูบาซี่ และเปดรี
ทีมชาติอาร์เจนตินา
แชมป์เก่าอาร์เจนตินาเป็นทีมเต็งอีกทีมที่น่าจะผ่านเข้ารอบลึก ๆ และมีสิทธิจะคว้าแชมป์ได้เช่นกัน คำถามคือทีมนี้จะได้ลิโอเนล เมสซี่ลงเล่นช่วยทีมหรือไม่ หลังจากที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ในปี 2022 เมสซี่ยังมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์โคปา อเมริกาในปีถัดมาได้อีก
ด้วยความไม่แน่นอนนี้ ลิโอเนล สคาโลนีจำเป็นต้องมีแผนสำรองที่จริงจัง เป็นเรื่องที่โชคดีที่มีนักเตะอย่างเลาตาโร มาร์ตีเนซและฮูเลี่ยน อัลวาเรซที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีมาเป็นตัวแทนของเมสซี่
ทีมชาติฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสทีมนี้เป็นทีมที่รวมผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ ทีมภายใต้การคุมที่ของดิดิเย่ เดชองส์ เน้นเล่นเกมรับและสวนกลับโดยใช้ความเร็วของเอมบับเป้ แผนนี้ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศยูโร 2024 ได้แบบไม่ลำบาก ฝรั่งเศสจึงเป็นอีกทีมที่น่าจับตามอง
ทีมชาติบราซิล
ทีมชาติบราซิลกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา จากความล้มเหลวในการจบอันดับสามใดนฟุตบอลโลกห้าครั้งหลังสุด ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่ย่ำแย่ นอกจากนั้นทีมยังตกรอบก่อนรองชนะเลิศของโคปาอเมริกา และอยู่อันดับเพียง 6 จาก 10 ทีมจาก 6 นัดในการคัดเลือกฟุตบอลโลกคอนเมโบล อย่างไรก็ตามบราซิลทีมฟุตบอลโลกนี้เต็มไปด้วยนักเตะที่มีความสามารถในช่วงพีคเช่น วินิซิอุซ จูเนียร์ เอนดริค และราฟินญา
บัตรชมเกมฟุตบอลโลก 2026
การขายตั๋วบอล โลก 2026 สำหรับผู้ชมทั่วไปจะเริ่มขึ้นหลังจากที่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 จบลง ซึ่งน่าจะเป็นช่วงปลายปี 2025 โดยช่องทางการซื้อตั๋วผ่านทาง FIFA.com/tickets
และเพื่อรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการขายบัตรเข้าชมเกม คุณสามารถลงทะเบียนแสดงความสนใจได้ที่ FIFA.com/tickets เพื่อรับข้อมูลอัปเดตและข้อมูลเกี่ยวกับการขายบัตร
โปรไฟล์ของทีมชั้นนำในฟุตบอลโลก 2026
พรีวิวทีมชาติที่คาดว่าจะทำผลงานได้ดีในฟุตบอลโลก 2026 ไปดูความสำเร็จในอดีตของทีม นักเตะสำคัญและฟอร์มการแข่งขันในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา
ทีมชาติเยอรมันนี
ทีมชาติเยอรมันนี ทำผลงานได้ดีในยูโร 2024 ถึงแม้ว่าจะแพ้ให้สเปนในรอบก่อนรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตามผลงานโดยรวมนั้นยอดเยี่ยม และมีนักเตะหน้าใหม่ที่จะมาแทนเลือดเก่าหลายคน นอกจากนั้นแล้วทีมของไนเกลส์มันทำผลงานได้ดีในรอบคัดเลือกอีกด้วย
ความสำเร็จในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
เยอรมนีเป็นทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลกมาแล้ว 4 ครั้งในปี 1954, 1974, 1990, และ 2014 นอกจากนั้นยังได้แชมป์ยุโรปมาแล้ว 3 ครั้งในปี 1972, 1980, 1996 และคอนเฟเดอเรชั่นส์คัพในปี 2017
นักเตะคนสำคัญของทีมเยอรมัน
โจชัวร์ คิมมิช
แบ็คขวาที่มีโอกาสจะสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม คิมมิชได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางและแบ็กขวาที่ดีที่สุดในโลก เขาเป็นนักเตะที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งในทีมสโมสรบาเยิร์น มิวนิคและเป็นกำลังสำคัญในเกมรับของทีม
จามาล มูเซียล่า
กองกลางวัย 20 ปี โดดเด่นด้วยทักษะการเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้อย่างสวยงาม ความสามารถในการควบคุมบอลของมูเซียลาเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุด รวมทั้งทักษะในการส่งบอลให้เพื่อน มูเซียล่า ลงเล่นให้ทีมชาติเยอรมนีไปแล้ว 38 นัด และทำได้ 7 ประตู นอกจากนั้นแล้วยังคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพในปี 2020, 2021 และ 2022 ร่วมกับสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก
ฟลอเรียน เวิร์ตซ์
เวิร์ตซ์ถูกเรียกเข้าแคมป์ทีมชาติเยอรมันนีในการแข่งขันยูโร 2024 เขายิงประตูในเกมแรกในนัดที่เอาชนะสกอตแลนด์ 5-1 ส่งผลให้เขาเป็นนักเตะเยอรมันที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ด้วยวัย 21 ปี 42 วัน ทำลายสถิติเดิมของไค ฮาเวิร์ตซ์ ในฤดูกาลที่แล้วเวิร์ตซ์เป็นกองกลางตัวรุกตัวสำคัญที่ช่วยให้เลเวอคูเซ่นคว้าแชมป์บุนเดสลีกา
ฟอร์มการแข่งขันในอดีต
เยอรมนีถือเป็นทีมที่แข็งแกร่งในวงการฟุตบอลโลก และคว้าแชมป์ได้แล้วถึง 4 ครั้งในปี 1954, 1974 และ 1990 และปี 2014
ในปี 2006 และ 2010 เยอรมนีจบอันดับสามในฟุตบอลโลก พวกเขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 8 ครั้ง (ชนะ 4 ครั้ง รองชนะเลิศ 4 ครั้ง) อย่างไรก็ตามทีมถูกวางเป็นหนึ่งในทีมเต็งก่อนการแข่งขันปี 2018 แต่กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังและตกรอบแบ่งกลุ่มหลังจากพ่ายแพ้ต่อ และในปี 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เยอรมนีก็ทำได้ไม่ดีโดยตกรอบแบ่งกลุ่มอีกครั้ง
ทีมชาติสเปน
ทีมชาติสเปน แชมป์เก่ายูโร 2024 มีทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุดทีมหนึ่ง ด้วยการผสมผสานระหว่างนักเตะรุ่นใหม่และนักเตะที่มีประสบการณ์ บวกกับโค้ชที่รู้จักนักเตะในเชิงลึกอย่างหลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ ทำให้ทีมกระทิงดุเป็นทีมที่น่าสนใจมากในฟุตบอลโลก 2026
ความสำเร็จในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
สเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ด้วยการนำทีมของนักเตะในตำนานของสโมสรบาร์เซโลนาอย่าง ชาบี อิเนียสต้า ปิเก้ และดาวิด บีย่า
นักเตะคนสำคัญ
ลามีน ยามาล
ปีกขวาวัย 17 ปีของบาร์เซโลนา เป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ยูโร 2024 และทำสถิติยิง 1 ประตูและ 4 แอสซิสต์ ซึ่งถือว่าเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมในการทำประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ในฤดูกาลนี้ลามีนกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับบาร์เซโลนาและกลายเป็นนักเตะคนสำคัญในทีมแบบปฎิเสธไม่ได้
เปดรี กอนซาเลซ
กองกลางตัวรุกของบาร์เซโลนาที่ก้าวข้ามผ่านอาการบาดเจ็บเรื้อรังมาได้ และเป็นนักเตะตัวสำคัญที่สุดของทีมภายใต้การคุมทีมของฮานซี่ ฟลิค ในการแข่งขันยูโร 2024 เปดรีโชคไม่ดีได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและต้องถอนตัวในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ต้องมารอดูว่าเขาจะทำได้ดีในทีมชาติเหมือนกับฟอร์มในสโมสรหรือไม่
โรดรี
กองกลางตัวรับเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โรดรีช่วยให้สเปนเข้าถึงและชนะรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2024 และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์ โดยยิงได้ 1 ประตู และมีเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลแม่นยำ 92 เปอร์เซ็นต์ การขาดไปของโรดรีในแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่งผลอย่างมาก และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเป็นนักเตะตัวสำคัญของสเปน
ฟอร์มการแข่งขันในอดีต
สเปนเป็น 1 ใน 8 ประเทศที่คว้าแชมป์การแข่งขันฟุตบอลโลก โดยคว้าแชมป์ได้ที่ประเทศแอฟริกาใต้ในปี 2010 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ สำหรับผลงานที่ผ่านมา ทีมชาติสเปนเป็นหนึ่งในทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกมากที่สุด โดยเข้าร่วม 16 ครั้งจากทั้งหมด 22 ทัวร์นาเมนต์ ผลงานที่ดีที่สุดของสเปนในฟุตบอลโลกคือการจบอันดับที่ 4 ในปี 1950 นอกจากนั้นทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ 2 ครั้ง และรอบก่อนรองชนะเลิศ 6 ครั้ง แต่ไม่สามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เลยนับตั้งแต่ประสบความสำเร็จในปี 2010
ทีมชาติฝรั่งเศส
ทีมชาติฝรั่งเศสผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกได้ 3 ครั้งจาก 4 ครั้งที่ผ่านมา และในครั้งล่าสุดพ่ายแพ้ให้กับอาร์เจนติน่าในการยิงจุดโทษ ถึงแม้ว่าจะทำผลงานได้ไม่ดีนักในยูโร 2024 แต่ก็เป็นอีกทีมที่คาดว่าจะทำได้ดีในฟุตบอลโลก 2026
ความสำเร็จในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 1998 ในบ้าน และปี 2018 ที่รัสเซีย พวกเขาเกือบที่จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศมาแล้วถึงสองครั้งในปี 2006 และ 2022 แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับอิตาลีและอาร์เจนตินาในการดวลจุดโทษทั้งสองครั้ง
นักเตะคนสำคัญ
คิเลียน เอมบับเป้
กองหน้าที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งตอนนี้จากเรอัล มาดริด เอ็มบัปเป้ลงเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2017 ขณะอายุได้ 18 ปี ในฟุตบอลโลกปี 2018 เอ็มบัปเป้กลายเป็นนักเตะฝรั่งเศสที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลก ไม่เพียงเท่านั้นหลังจากจบการแข่งขันเขาได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งฟุตบอลโลกและนักเตะฝรั่งเศสยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย
อองตวน กรีซมันต์
กองกลางตัวรุกจากแอตเลติโก มาดริด เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นชาวฝรั่งเศสที่ดีที่สุด กรีซมันต์เป็นที่รู้จักในเรื่องความฉลาดในการตัดสินใจ การครองบอลติดเท้าและทักษะในการส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม นอกจากจะเป็นกำลังสำคัญให้ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดแล้ว เขายังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมในนัดชิงชนะเลิศช่วยให้ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 อีกด้วย
ฟอร์มการแข่งขันในอดีต
ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 1998 ในการแข่งขันในบ้านและอีกครั้งในปี 2018 ที่รัสเซีย นอกจากนั้นฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยสามารถคว้าแชมป์ได้ 2 สมัยในปี 1984 และ 2000 และจบอันดับรองชนะเลิศในปี 2016
ทีมชาติอังกฤษ
ทีมชาติอังกฤษยังวิ่งไคว่ขว้าหาแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งที่สองของพวกเขา อังกฤษเป็นทีมที่แฟนบอลไทยสนับสนุนและตามเชียร์มาที่สุดมาตลอด จากผลพลอยได้ของการติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และดูเหมือนว่าในฟุตบอลโลก 2026 พวกเขาน่าจะมีโอกาสที่จะเข้ารอบลึก ๆ ได้เช่นกัน
ความสำเร็จในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
อังกฤษคว้าแชมป์ได้ในปี 1966 ภายใต้การคุมทีมของเซอร์อัลฟ์ แรมซีย์ ใช้ความได้เปรียบในการเล่นในบ้านและคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่สนามเวมบลีย์ในกรุงลอนดอน
นักเตะคนสำคัญ
จู๊ด เบลลิ่งแฮม
กองกลางตัวรุกจากเรอัล มาดริด ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษตั้งแต่ปี 2020 และทำไปได้ 6 ประตู เขาเป็นกำลังสำคัญในการพาอังกฤษเข้ารอบชิงชนะเลิศยูโร 2024 และไปแพ้ให้สเปน ความโดดเด่นของจู๊ดคือสภาพจิตใจและร่างกายที่แข็งแกร่ง รวมทั้งความเป็นผู้นำและทุ่มเทให้กับการเล่นทุกเกม
บูกาโย ซากา
ปีกขวาตัวเก่งของอาร์เซนอลที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนในตอนนี้ ซาก้าถูกเรียกมาติดชาติตั้งแต่ปี 2022 และทำประตูไปแล้วถึง 12 ประตู ซาก้ามีชื่อเสียงในเรื่องความคิดสร้างสรรค์บนสนาม การเลี้ยงบอล และความแข็งแกร่งของร่างกาย เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งในตอนนี้
แฮรี่ เคน
กองหน้าจากสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ยิงไป 69 ประตูจากการลงสนาม 103 นัดให้ทีมบ้านเกิด เขายังโชว์ฟอร์มอย่างต่อเนื่องให้กับสโมสรในบุนเดสลีกา เคนมีความโดดเด่นในเรื่องความเด็ดขาดในการทำประตูในกรอบเขตโทษ นอกจากนั้นแล้วยังเป็นผู้เล่นซีเนียร์ที่นักเตะวัยรุ่นในทีมให้ความเคารพอีกด้วย เคนจะเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติสิงโตคำรามในฟุตบอลโลก 2026 แบบไม่ต้องสงสัย
ฟอร์มการแข่งขันในอดีต
อังกฤษเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 1966 ภายใต้การคุมทีมของเซอร์อัลฟ์ แรมซีย์เอาชนะเยอรมนีตะวันตกไปได้ 4-2 ในรอบชิงชนะเลิศ หลังจบช่วงต่อเวลาพิเศษ นอกจากนั้นแล้วทีมชาติอังกฤษเคยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ไกลที่สุดในปี 1990 และ 2018
ทีมม้ามืดฟุตบอลโลก 2026
สำหรับทีมเข้ารอบบอลโลกที่เป็นม้ามืดหรือทีมรองที่คาดการณ์ว่าจะทำได้ดีฟุตบอลโลก 2026 มีหลายทีมด้วยกัน เช่น โปรตุเกสที่เต็มไปด้วยนักเตะที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมมารวมไว้ในทีมเดียว คำถามที่ยังรอคอยคำตอบคือ คริสเตียโน โรนัลโด้จะสามารถลงเล่นให้กับทีมด้วยวัย 41 ปีได้หรือไม่ นอกจากโปรตุเกสแล้ว อิตาลีก็ยังเป็นอีกทีมที่ถึงแม้จะทำได้ไม่ดีนักในช่วงปีที่ผ่านมาแต่ด้วยคุณภาพของนักเตะ และความสามารถของโรแบร์โต้ มันชินี่ อิตาลีจึงเป็นทีมที่น่าจับตามองอีกทีมหนึ่ง
โปรไฟล์นักเตะฟุตบอลโลกในอดีตและปัจจุบัน
นักเตะยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
เปเล่
กองหน้าในตำนานผู้ล่วงลับจากทีมชาติบราซิล เปเล่ทำประตูให้บราซิลได้ทั้งหมด 77 ประตูจากการลงสนาม 92 นัด เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลร่วมของบราซิล ร่วมกับเนย์มาร์ ประตูแรกของเปเล่ยิงได้ในเกมที่พ่ายแพ้ให้กับอาร์เจนตินา 2-1 ที่เมืองริโอเดอจาเนโรเมื่อปี 1957 และเขายังคงทำประตูได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายทศวรรษปี 1950 1960 และ 1970
จาก 77 ประตูของเปเล่ มี 12 ประตูที่ทำได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยจำนวนประตูที่เขาทำได้มากที่สุดในรายการเดียวคือ 6 ประตูในปี 1958 ประตูสุดท้ายของเขาสำหรับบราซิลเกิดขึ้นในนัดกระชับมิตรเมื่อปี พ.ศ. 2514 กับออสเตรียในเซาเปาโล ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 1-1
ดิเอโก้ มาราโดน่า
กองหน้าตัวสำคัญของทีมชาติอาร์เจนติน่า มาราโดน่ายังเป็น 1 ใน 3 นักเตะของอาร์เจนตินาที่สามารถทำประตูได้ในฟุตบอลโลกถึง 3 สมัย ในปี1982, 1986 และ 1994) เท่ากับเมสซี่ และบาติสตูต้า นอกจากจะทำประตูได้ 8 ประตูแล้ว มาราโดน่ายังแอสซิสต์ช่วยให้ทีมทำประตูได้อีก 8 ครั้งจากการลงสนาม 21 นัดจาก 4 ทัวร์นาเมนต์ที่เขาลงเล่น และถือว่าเป็นสถิติที่ดีที่สุดสำหรับฟุตบอลโลก
ซีนาดีน ซีดาน
อดีตกองกลางอัจฉริยะของทีมชาติฝรั่งเศส ซีดานพาฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2000 และยังลงเล่นฟุตบอลโลกอีกสองครั้งในปี 2002 และ 2006 เขาทำประตูไปแล้วทั้งหมด 6 ประตู โดย 2 ประตูสำคัญคือการยิงบราซิลได้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกในปี 1998
นักเตะที่ทำประตูได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
นักเตะที่ทำประตูได้สูงสุดคือ มิโรสลาฟ โคลเซ่ จากทีมชาติเยอรมันนี ทำประตูไปได้ทั้งหมด 16 ในการลงเล่นฟุตบอลโลกทั้งหมด 4 ครั้งในปี 2002 (5 ประตู), 2006 (5 ประตู), 2010 (4 ประตู), และ 2014 (2 ประตู)
สำหรับนักเตะอันดับสองคือโรนัลโด้จากทีมชาติบราซิล ทำได้ทั้งหมด 15 ประตู จากการลงเล่นฟุตบอลโลก 3 ครั้ง ในปี 1998 (4 ประตู), 2002 (8 ประตู), และ 2006 (3 ประตู)
นักเตะที่น่าจับตามองในฟุตบอลโลก 2026
ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกทุกครั้งจะมีนักเตะดาวรุ่งที่ทำผลงานโดดเด่น สำหรับในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ครั้งนี้ นักเตะที่น่าจับตามองหลายคนมาจากทีมชาติสเปน ไม่ว่าจะเป็นลามีน ยามาลปีกวัย 17 ปี เปา คูบาซี่ กองหลังวัย 18 ปี รวมทั้งมาร์ค คาซาโด้กองกลางวัย 20 ปีที่ทำผลงานให้กับสโมสรได้ยอดเยี่ยม
นอกจากนั้นยังมีชื่อของ เอ็นดริค เฟลิเป้ กองหน้าวัย 18 ปีของทีมชาติบราซิลที่ทำผลงานได้ดีกับทีมต้นสังกัดเรอัล มาดริด และเยนี โยโร่กองหลังจากทีมชาติฝรั่งเศสที่ได้รับความไว้วางใจให้ลงเล่นเป็นตัวจริงกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นอกจากนักเตะดาวรุ่งวัยเยาว์แล้ว นักเตะที่เคยลงเล่นในฟุตบอลโลกมาก่อนหลายคนก็น่าสนใจเช่นกัน เช่น โคล พาล์มเมอร์ของอังกฤษ ราฟินญ่าของทีมชาติบราซิล
ข่าวสารที่น่าสนใจและอัพเดทที่สุดเกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2026
ติดตามข่าวกีฬาฟุตบอลโลกที่น่าสนใจแบบอัพเดทเรียลไทม์ได้จากเว็บของเรา ยิ่งใกล้การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ที่จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ เราจะนำเสนอข่าวสารมากขึ้นเท่านั้น รับรองว่าคุณจะไม่พลาดข่าวสารเกี่ยวกับการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกของทุกทวีป ทีมที่ผ่านเข้ารอบไปแล้ว การแบ่งกลุ่มและอื่น ๆ อีกมากมาย